วิธีการเลือกดอกสว่านให้เหมาะสมและถูกต้องต่อการใช้งาน
งานช่างและงานฝีมือต่างๆ นั้นล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญทั้งสิ้นครับ เฉกเช่นเดียวกับการยิบจับเครื่องมือต่างๆ มาใช้นั้น ก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานนั้นเองครับ วันนี้เราจะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “วิธีการเลือกดอกสว่านให้เหมาะสมและถูกต้องต่อการใช้งาน” กันครับ จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันดีกว่าครับ
ทำความรู้จักกับดอกสว่าน
สว่าน คือ เครื่องมืองานช่างทั่วไป มักใช้ในงานไม้ งานปูนคอนกรีต และงานโลหะ มีหน้าที่ใช้สำหรับเจาะรู กระแทกวัตถุใช้ไขหรือคลายสกรูในการถอดและประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกันโดยที่ไม่ต้องออกแรงมาก สว่านมีรูปทรงลักษณะคล้ายปืน มีด้ามจับ ส่วนปลายเป็นปากสำหรับยึดดอกสว่าน ซึ่งดอกสว่านมีลักษณะเป็นแท่งเกลียวยาวปลายแหลมที่สามารถหมุนเจาะทำให้เป็นรูได้ ดอกจะสว่านมีหลายประเภทและมีหลายขนาดสามารถถอดและเปลี่ยนดอกสว่านได้ตามต้องการ
สว่านมีกี่ประเภทอะไรบ้าง?
●สว่านไขควงไฟฟ้า (Electric Screwdriver)
มีกำลังไม่สูงมากนัก มีทั้งแบบไร้สาย ใช้แบตเตอรี่ และใช้ถ่าน หน้าที่หลักคือการไขสกรู จึงมีระบบควบคุมแรงบิดและรอบหมุน สามารถกลับทางหมุนได้ เพื่อให้เหมาะกับทั้งการไขสกรู และการคลายสกรู
●สว่านไฟฟ้า (Electric Drill)
มีกำลังประมาณ 300-550 วัตต์ มีน้ำหนักเบา ถูกออกแบบมาเพื่อสำหรับงานเจาะไม้, เจาะเหล็ก, เจาะพลาสติก, ขันน็อต, ขันสกรู แต่ไม่สามารถเจาะปูน อิฐ และหินได้ ข้อดีคือมีสายไฟ จึงสามารถใช้งานอย่างต่อเนื่อง สว่านประเภทนี้เน้นงานไม้เป็นหลัก เหมาะสำหรับมีติดบ้านไว้ใช้งานเบา ๆ เช่น เจาะชั้นไม้, หิ้งพระ, ที่แขวนรูป, ใช้เป็นไขควงไฟฟ้า, ใช้ในงานฝีมือ DIY ต่าง ๆ เพราะมีขนาดเล็กน้ำหนักเบากว่าสว่านแบบอื่น หรือไว้ใช้สำหรับเจาะเพดาน หรือเจาะเหล็กกล่องโครงหลังคาเพื่อยึดหลังคา
●สว่านกระแทก (Impact Driver Electric)
มีลักษณะคล้ายสว่านไฟฟ้า แต่มีกำลังวัตต์สูงกว่า มีกำลังประมาณ 550-720 วัตต์ ใช้การทำงาน 2 ระบบ คือระบบธรรมดา และระบบกระแทกที่ทำหน้าที่เหมือนค้อน ช่วยในการเจาะปูนแบบก่อฉาบ งานไม้และงานเหล็ก เหมาะสำหรับงานช่างทั่วไปและช่างอาชีพ และยังเป็นสว่านยอดฮิตที่มีติดบ้านไว้สำหรับงานช่างของพ่อบ้านอีกด้วย
●สว่านเจาะกระแทกหรือสว่านโรตารี่ (Hammer Drills Electric)
มีกำลังตั้งแต่ 650 วัตต์ ขึ้นไป แบ่งออกเป็นแบบ 2 ระบบ คือระบบเจาะและระบบกระแทก กับแบบ 3 ระบบ คือระบบเจาะ, ระบบกระแทก และระบบสกัด เพื่อช่วยสกัดหน้าปูนเพิ่มขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็นสว่านเจาะปูนโดยเฉพาะนั่นเอง
เลือกดอกสว่านอย่างไรให้เหมาะสมกับงานแต่ชนิด
– ดอกสว่านสำหรับเจาะไม้
มีลักษณะส่วนปลายแหลมมีหัวเกสร ช่วยในการนำศูนย์ ปลายดอกจะคล้ายหางปลา ลดการแกว่ง เป็นดอกสว่านที่ใช้สำหรับเจาะไม้ที่มีขนาดไม่กว้างนัก โดยขนาดที่นิยมใช้กันทั่วไป คือ ขนาด 5, 6 หรือ 8 มิลลิเมตร ดอกสว่านเจาะไม้ผลิตจากเหล็กคาร์บอนต่ำ ทำให้ไม่สามารถทนความร้อนและแรงเสียดทานได้มากนัก
– ดอกสว่านสำหรับเจาะเหล็ก
เป็นดอกสว่านที่ใช้เจาะวัสดุเนื้อเเข็ง เหล็ก อลูมิเนียม หรือวัสดุเนื้ออ่อนได้ มีลักษณะเป็นเกลียวตัดตลอด ปลายดอกสว่านจะแหลมเพื่อใช้ในการจิกชิ้นงาน สามารถนำมาใช้เจาะชิ้นงานที่เป็นไม้หรือโลหะทั่วไป รวมถึงพลาสติกได้อีกด้วย โดยดอกสว่านเจาะเหล็กจะแบ่งตามชนิด
– ดอกสว่านสำหรับเจาะปูนหรือเจาะคอนกรีต
มีลักษณะของดอกสว่านเป็นเกลียวบิด ส่วนปลายดอกเป็นเหล็กชุบแข็งพิเศษ เพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกจากการใช้งาน เหมาะสำหรับการเจาะปูน ซีเมนต์ บล็อก หรืออิฐ เป็นต้น ดอกสว่านชนิดนี้จะผลิตจากเนื้อโลหะที่อ่อนกว่าส่วนหัวเจาะ สว่านหัวเจาะจะผลิตจากทังสเตนคาร์ไบด์
และนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับ “วิธีการเลือกดอกสว่านให้เหมาะสมและถูกต้องต่อการใช้งาน” ที่เราได้ค้นหามาให้ทุกๆ ท่านกันครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่องานช่างของทุกท่านกันนะครับ